เกร็ดความรู้เกี่ยวกับครีมกันแดดผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสง UV

     ปัจจุบันจะเห็นว่าคุณสาวๆ ให้ความสนใจกับการใช้ครีมกันแดดและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดดกันมากขึ้น เพราะต้องการปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต(UV) จากแสงแดด ซึ่งในท้องตลาดก็มีผลิตภัณฑ์กันแดดออกมาแข่งขันกันมากมาย จึงนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับครีมกันแดดที่คุณสาวใช้อยู่ จะได้เลือกใช้ได้อย่างเข้าใจมากขึ้น


  • ครีมกันแดดที่มีสารกันแดดอยู่จริง
  • ผลิตภัณฑ์กันแดดและครีมกันแดดของคุณใช้กันอยู่ จะรู้ได้อย่างไรว่ามีส่วนผสมของสารกันแดดอยู่จริง และจะปกป้องผิวของเราจากรังสี UVจากแสงแดดได้มากแค่ไหน ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรรู้อย่างมาก เพราะเราจะเลือกซื้อจากคำโฆษณาและในฉลากผลิตภัณฑ์บอกไว้เท่านั้น ฉะนั้นมาดูเพิ่มอีกอย่าง คือชื่อของสารกันแดดที่เห็นได้บ่อยๆ ในผลิตภัณฑ์กันแดด ดังนี้ Titanium Dioxide ,Benzophenone-3 ,2-Ethylhexyl Methoxycinnamate ,Butyl  Methoxydibenzoylmethane ,Bis-Ethylhexyloxyphenolmethoxytriazine


  • ทำความรู้จักค่า SPF และค่า PA
  • สงสัยกันมากว่า SPF และ PA ที่เห็นจากฉลากของผลิตภัณฑ์นั้นคืออะไร? ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ ก็คือค่าที่บอกประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV ที่ต่างกันคือ ค่า SPF (Sun Protection Factor) จะป้องกันรังสี UVB รังสีชนิดนี้มีผลทำให้ผิวไหม้ พองบวม ส่วน  PA (Protection Grade of UVA) จะป้องกันรังสี UVA ต้นเหตุของสีผิวที่หมองคล้ำ เหี่ยวย่น และทั้ง 2 ชนิดอาจส่งผลให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้นต้องใช้ครีมกันแดดที่มีทั้งค่า SPF และค่า PA เพื่อการปกป้องผิวของคุณได้ดีที่สุด


  • ความแตกต่างของตัวเลขในค่า SPF
  • ส่วนใหญ่เราจะเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง เพราะมั่นใจว่าจะต้องปกป้องผิวได้ดีกว่าตัวเลขต่ำๆ แน่ๆ ความจริงแล้วตัวเลข SPF สูงนั้น คือจะสามารถป้องกันได้นานกว่า ไม่ใช่ป้องกันได้ดีกว่า เพื่อเข้าใจที่ถูกต้องก็คือ โดยปกติผิวเรานั้นจะสามารถรับมือกับแสงแดดได้นาน 20 นาที จึงนำมาเป็นเกณฑ์เริ่มต้น ถ้าในครีมกันแดดระบุค่า SPF15 ก็คือ 15x20 เท่ากับรับมือได้นาน 300 นาที เป็นต้น แสดงว่าถ้าค่า SPF สูงกว่า ย่อมปกป้องผิวจากแสงแดดได้นานกว่านั่นเอง


  • เครื่องหมายบวก (+) ในค่า PA
  • สำหรับครีมกันแดดที่มีค่า PA เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างจากแต่ก่อนที่มีแต่ค่า SPF ดังนั้นเท่ากับผิวจะได้รับการปกป้องจากแสงแดดได้ดีกว่าเดิม ส่วนค่า PA ที่เห็นเป็นเครื่องหมายบวก(+) ต่อท้ายนั้น เป็นการบอกระดับการปกป้องรังสี UVA ว่ามีความสามารถปกป้องผิวได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งปัจจุบันมีด้วยกัน 3 ระดับ คือ PA+, PA++และ PA+++ เริ่มต้นเลยคือ PA+ นั้น จะมีความสามารถในการป้องกันรังสี UVA อยู่ที่ 2-4 เท่า เครื่องหมายบวกที่เพิ่มขึ้นอีกเป็น 4-8 เท่าและ 8-16 เท่าตามมา และยังมีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นด้วย

Share this

Related Posts

First