แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิธีใช้และคำแนะนำ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิธีใช้และคำแนะนำ แสดงบทความทั้งหมด

เคล็ดลับการป้องกันพิษภัยจากแสงยูวี ด้วยครีมกันแดด

     เรื่องปัญหาสุขภาพผิวที่เราต้องประสบพบเจอ มีหลากหลายสาเหตุ และแสงอัลตาไวโอเลต หรือที่เรียกว่าแสงยูวี(UV) คือเจ้าต้นเหตุสำคัญที่ไม่แค่ทำให้เรารู้สึกร้อนเท่านั้น แต่กลับมีพิษภัยทำลายผิวเราได้ ไม่ว่าเจ้าตัวแสงยูวีจะเป็นตัวร้ายกับผิวเราแค่ไหนก็ตาม เราสามารถป้องกันได้ด้วยเคล็ดลับที่เรานำมาฝากกันนี้เลย


  1. หลีกเลี่ยงแสงแดดและแสงยูวี

  2. เราคงจะหลบแสงแดดไม่ได้ อย่างไรก็คงหนีไม่พ้น แต่เราสามารถเลี่ยงแสงแดดในช่วงที่มีรังสียูวีมากๆ อย่างช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น.ได้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่แดดแรงมาก สังเกตได้จากผิวมีอาการแสบร้อน แต่ถ้าเราต้องเผชิญแสงแดด ต้องใส่เสื้อผ้าคลุมกายและสวมหมวกกันไว้ให้มิดชิดเข้าไว้ เพื่อไม่ให้กระทบผิวโดยตรง


  3. เลือกใช้ครีมกันแดด

  4. ครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญที่ควรคู่ผิวหน้าและผิวกายของเรา เมื่อต้องเผชิญกับภาวะแสงแดดและต้องสู้กับแสงยูวี ทาผิวด้วยครีมกันแดดทุกวันเป็นประจำหรืออย่างน้อยก่อนออกไปกลางแดด ก็จะช่วยเป็นเกราะป้องกันให้กับผิวไม่ให้เกิดอาการแสบคัน หมองคล้ำ ผิวแดงไหม้ ทำให้ผิวหน้าเกิดฝ้า และอาจเป็นสาเหตุร้ายแรงอื่นๆ อีกได้


  5. ใช้ครีมกันแดดให้เหมาะสม

  6. เมื่อรู้แล้วว่าครีมกันแดดช่วยป้องกันพิษภัยจากแสงยูวีให้กับคุณได้ ฉะนั้นอย่ามองข้ามให้ครีมกันแดดมาดูแลสุขภาพผิวของคุณ ด้วยการเลือกใช้ชนิดที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณเอง และที่สำคัญต้องมีส่วนผสมของสารกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการช่วยป้องกันผิวไม่ให้เกิดอาการแสบและไหม้ได้จริงๆ ด้วย


  7. เลือกใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันยูวีเอและยูวีบี

  8. ต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพและมีสารกันแดดจริง ที่สามารถป้องกันยูวีเอที่เป็นสารกันแดดสะท้อนแสง และชนิดที่ป้องกันยูวีบีด้วย โดยให้ดูค่า Sun Protection Factor หรือเรียกว่าค่า SPF ที่เป็นตัววัดความสามารถในการป้องกันอาการแดงไหม้จากแสงยูวีบี


  9. ทาครีมกันแดดทุกครั้ง อย่างสม่ำเสมอ

  10. เพื่อให้ได้ผลดีกับผิวคุณ ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ แม้จะไม่ได้ออกไปเจอแสงแดดโดยตรงก็ตาม เพราะไม่ใช่เพียงจากแดดในตอนกลางวันเท่านั้นที่มีแสงยูวี การที่คุณอยู่ห้องที่มีแสงไฟ แสงสว่างจากหน้าคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่คุณอยู่ในร่มก็ทำให้ต้องโดนแสงยูวีได้เช่นกัน


     เห็นแล้วใช่ไหมละว่าแค่คุณใช้ครีมกันแดดไว้เป็นตัวช่วยชั้นดี ที่ทำให้ผิวหน้าผิวกายของคุณไม่ต้องประสบปัญหาผิวเสีย แห้งกร้าน เป็นฝ้า หรือแม้แต่เกิดอันตรายเป็นพิษภัยให้กับผิวของคุณจนเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ฉะนั้นอย่าลืมเลือกซื้อครีมกันแดดและเพื่อให้ได้ผลต้องใช้เป็นประจำ

5 คำตอบของ 5 ปัญหาผิว จากการใช้ครีมกันแดด

     เรารู้กันดีว่ารังสีอัลตราไวโอเลต(UV) จากแสงแดด เป็นตัวอันตรายที่ทำให้ผิวสาวๆ ต้องมีสีผิวดำคล้ำ แห้งกร้าน มีริ้วรอย เกิดฝ้าแดด และอาจเป็นมะเร็งผิวหนังได้ จึงหันมาให้ความสนใจเลือกปกป้องผิวด้วยการใช้ครีมกันแดด แต่ก็ยังมีปัญหาหลังจากการใช้ไปแล้ว ฉะนั้นมาดูกันว่าปัญหาที่คุณเผชิญอยู่นั้น เราสามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้าง


  1. ทาครีมกันแดดแล้วเหนียวเหนอะหนะ

  2. โดยปกติครีมกันแดดที่ใช้กันอยู่ มีค่า SPF สูงยิ่งเข้มข้น ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกของคุณสาวๆ แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์กันแดดให้มีเนื้อบางเบา ซึมเร็ว โดยใช้ปริมาณ 1 กรัมทาให้ทั่วผิวหน้า และควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ให้เหมาะกับกิจกรรมและความแรงของแสงแดดด้วย ไม่จำเป็นต้องใช้แต่ค่า SPF สูงเสมอไป


  3. ทาครีมกันแดดแล้วผิวยังคล้ำ

  4. สำหรับสาวๆ ที่กลัวว่าโดนแดดแล้วผิวจะคล้ำเสียเลยขยันทาครีมกันแดดทุกวัน แต่ก็ยังมีปัญหาผิวหมองคล้ำอยู่ดี ความจริงแล้ว ครีมกันแดดที่ใช้อยู่นั้น จะมีสารกันแดดและคุณสมบัติในการปกป้องแสงแดดที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกใช้ชนิดที่ป้องกันทั้ง UVA และ UVB ที่มีผลค่อนข้างเสถียร จะทำให้ได้ผลดีกว่า และควรทาซ้ำเป็นการยืดอายุการป้องกันให้นานขึ้น


  5. ใช้ครีมกันแดดแล้วสิวขึ้น

  6. ผิวหน้ามันทาครีมกันแดดแล้ว ก็ยิ่งอุดตันบนใบหน้า เป็นสิว และเกิดการอักเสบได้ ลองเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดชนิดเจล เพราะมีลักษณะบางเบาทำให้ซึมเข้าผิวได้ง่าย และไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ถ้าเลือกใช้แต่แบบครีมก็จะยิ่งทำให้ผิวอุดตัน และไม่ทาครีมหนาเกินไปจะทำให้หน้ามันยิ่งขึ้น และเวลาล้างหน้าต้องล้างให้สะอาดหมดจดด้วย


  7. ใช้ครีมกันแดดแล้วหน้าขาวลอย

  8. หากเจอปัญหาทาครีมกันแดดทีไร หน้าขาวลอยเด่นมาแต่ไกล ต้องหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีสารกันแดดที่ชื่อว่า Titanium Dioxide เพราะสารตัวนี้มีความสามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ผิวดูขาวกว่าปกตินั่นเอง และที่สำคัญไม่อยากให้หน้าขาววอก หรือสีเทาหม่น ต้องเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสีผิวด้วย


  9. ทาครีมกันแดดแล้วยังเห็นริ้วรอย แผลเป็น

  10. ปัจจุบันมีครีมกันแดดที่ช่วยในเรื่องปกปิดจุดด่างดำ ริ้วรอย หรือแม้แต่แผลเป็นเล็กๆ ได้ เพราะในครีมกันแดดชนิดที่มีส่วนผสมของ BB และ CC ช่วยคุณได้ เพราะใน 2 ชนิดนี้ จะรวมเอาคุณสมบัติเด่นของเบส รองพื้น บำรุงและสารกันแดดเข้าไวด้วยกัน และใน CC เพิ่มการปรับสีผิว ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

ออกไปท่องเที่ยวท้าลมและแสงแดดได้อย่างสบายใจ เมื่อได้ใช้ครีมกันแดดอย่างถูกวิธี

     เราต่างก็รู้กันดีว่าเมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย อยากออกไปเที่ยวให้ทั่วไทยเลย แต่ปัญหาคือไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน ฤดูใด ก็ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนมากถึงร้อนที่สุด จนแทบไม่อยากไปไหน อย่าว่าแต่ออกไปเที่ยวเลย แค่เดินออกจากบ้านไปก็โดนแดดแรงๆ เผาผิวให้แห้งกร้าน แสบคันกันแล้ว แต่ถ้าบอกว่ามีวิธีที่คุณสามารถไปเที่ยวได้อย่างสบายใจละ แบบนี้น่าสนใจใช่ไหม ซึ่งไม่ยากเลย เพียงคุณใช้ครีมกันแดดอย่างถูกวิธี เรื่องเที่ยวก็เป็นเรื่องง่ายและสบายใจได้เลย


  1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมสารกันแดด

  2. เริ่มแรกเลยคุณต้องรู้จักการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้าและผิวกายของคุณให้มีส่วนผสมของสารกันแดด หรือเป็นครีมกันแดดโดยตรงที่มี SPF15+ ขึ้นไป เพราะในเนื้อครีมกันแดดนั้น จะสามารถช่วยปกป้องผิวของคุณให้ไม่ได้รับอันตรายจากแสงUV ที่จะทำร้ายผิวของเราได้ และเครื่องสำอางที่ใช้ประจำก็ควรต้องมีส่วนผสมของสารกันแดดร่วมด้วย


  3. เตรียมผิวด้วยการทาครีมกันแดดก่อนออกไปเจอกับแสงแดด

  4. หลังจากที่ทำความสะอาดผิวหน้าผิวกายแล้วหลังจากนั้นให้ใช้ครีมกันแดดทาให้ทั่วบริเวณผิวที่เป็นอวัยวะส่วนที่ต้องโผล่พ้นมาจากเสื้อผ้า ทั้งผิวหน้า แขน ขาและมือ ลำคอ ทาทิ้งไว้สัก 5-10 นาทีรอให้ผิวดูดซึมครีม แล้วจึงค่อยทาครีมตัวอื่นๆ ต่อไป และสำหรับใครที่ต้องบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ควรทาก่อนครีมกันแดดทุกครั้งเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว


  5. ในกระเป๋าต้องมีครีมกันแดดพกติดตัวเสมอ

  6. ไม่ว่าการเดินทางท่องเที่ยวของคุณจะต้องเผชิญกับแสงแดดที่ร้อนแรงแค่ไหน ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะเราขอแนะนำให้คุณพกครีมกันแดดติดตัว ติดกระเป๋าไว้ให้พร้อมใช้เสมอ ไม่ว่าจะเดินทางไปไหน เมื่อต้องเจอสภาพอากาศที่ลมแรง แดดแสบร้อน ผิวของคุณยิ่งควรได้รับการปกป้อง ก็ยิ่งควรหยิบครีมกันแดดมาทาบ่อยๆ เป็นประจำทุกวัน


  7. เลือกทาครีมกันแดดให้เหมาะสม

  8. เมื่อรู้แล้วว่าใช้ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวเราจากแสงแดดได้ ก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมด้วย ทั้งสภาพผิว สีผิว และเหมาะกับกิจกรรมในการท่องเที่ยวนั้นเป็นแบบไหน สภาพแดดลมแรง หรือจะต้องเจอทั้งแดดและน้ำ ยิ่งต้องใช้ครีมที่แตกต่างกันอย่างเหมาะสม และแม้ไม่มีแดดหรืออยู่ในที่ร่มก็อย่ามองข้ามต้องทาครีมกันแดดชนิดที่บางเบากันไว้ด้วยเช่นกัน

มาสร้างเกราะป้องกันให้กับผิวสวยของคุณด้วยครีมกันแดดกันเถอะ

     เมื่อต้องเจอกับสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนและแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นใครก็อยากจะหลบลี้หนีเจ้าตัวต้นเหตุของผิวเสีย หยาบกร้านและเป็นฝ้า แต่ต่อไปนี้คุณไม่ต้องกลัวแสงแดดตอนกลางวันจนไม่กล้าออกไปไหนอีกแล้ว เพียงแค่มีครีมกันแดดเกราะป้องกันให้กับผิวสวยๆ ของคุณได้ แต่จะเป็นอย่างไรนั้น ต้องติดตาม


  1. มารู้ภัยอันตรายที่เกิดจากแสง UV กันก่อน

  2. อาการเริ่มแรกที่รู้สึกได้ว่าผิวจะแห้ง แสบร้อนและคันๆ และจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อได้รับแสงอาทิตย์ที่แรงและนาน ยิ่งในช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น. คือเวลาที่มีความเสี่ยงจะได้รับแสงอัลตราไวโอเลตมากกว่าเวลาอื่น เป็นสาเหตุให้ผิวคล้ำ มีริ้วรอย เป็นฝ้า กระ และจะส่งผลให้ผิวมีอาการแดงไหม้ บวมพอง จนถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังได้ น่ากลัวมากใช่ไหมละ


  3. ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารกันแดด

  4. คุณต้องรู้จักการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้าและผิวกายของคุณให้มีส่วนผสมของสารกันแดด และใช้ครีมกันแดดโดยเฉพาะที่มีค่า SPF15+ และ PA+จะสามารถปกป้องผิวของคุณให้ไม่ได้รับแสง UV โดยตรง ควรดูแลผิวด้วยการทาครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้าและผิวกายเป็นประจำ เพื่อเป็นเกราะป้องกันผิวให้กับสาวๆ สู้แดดได้เพื่อผิวสวยได้อีกนานๆ


  5. ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA เหมาะสม

  6. อีกข้อที่สำคัญคือการเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF และค่า PA ซึ่งก็คือ ตัวบ่งบอกถึงความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVB และ UVA พิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมด้วย อย่างเช่น ถ้าสาวๆ ที่ต้องการปกป้องสูง อย่างการที่ต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ แดดจัดๆ สามารถใช้ค่า SPF 30+ ขึ้นไปได้ และค่า PA+++ เพื่อเป็นเกราะป้องกันชั้นสูงให้กับผิวของคุณ


  7. เลือกใช้ครีมกันแดดให้เหมาะกับกิจกรรม

  8. สำหรับคุณสาวๆ ที่ทาครีมกันแดดไปแล้ว แต่กังวลว่าเหงื่อออกมาก หรือต้องออกไปเผชิญกับกิจกรรมที่ต้องเจอน้ำ ไม่ว่าจะล่องแก่ง ว่ายน้ำ ไปเที่ยวทะเล ไม่ต้องกังวลว่าทาไปแล้วจะไม่มีประโยชน์ เพราะถ้าคุณเลือกครีมกันแดดชนิดกันน้ำ จะมีคุณสมบัติติดทนนาน ไม่หลุดง่าย เพื่อจะได้รับประโยชน์ช่วยปกป้องผิวคุณจากแสงแดดอย่างได้ผล


  9. ครีมกันแดดจำเป็นทุกฤดูและทุกสภาพอากาศ

  10. ทุกวันนี้แดดในบ้านเราช่างร้อนแรงไม่ว่าฤดูไหน  จะร้อน ฝนหรือหนาว สาวๆ ก็ควรดูแลผิวหน้า ผิวกายด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำเสมอ เพราะเมื่อมีแสงอาทิตย์ก็จะมีรังสี UV อยู่ดี ฉะนั้นผิวของคุณย่อมต้องการได้รับการปกป้องเช่นกัน  จะเลือกใช้ครีมกันแดดต่างชนิดได้ หรือมีค่า SPF และค่า PA สูงหรือต่ำ ตามสภาพอากาศและแสงแดดในช่วงนั้นๆ ด้วย

3 วิธีหลีกเลี่ยงและป้องกันแสงแดด ปราการแรกก่อนพึ่งพาครีมกันแดด

     ในปัจจุบันโลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนเมืองไทยเองก็ร้อนไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุดเช่นกัน จากที่เคยมี 3 ฤดูก็เหมือนจะเหลือแค่ฤดูร้อนอย่างเดียว ทำให้ครีมกันแดดถือเป็นตัวช่วยหลักสำหรับคนไทยในการช่วยไม่ให้ผิวที่เข้มอยู่แล้ว เข้มขึ้นไปอีกจนถึงขั้นดำ อันนี้ถือว่ารับไม่ได้อย่างยิ่งสำหรับสาวๆ เรามาดูกันสิว่าจะทำอย่างไรในการป้องกันแดดให้กับตัวเองได้บ้างก่อนที่จะต้องพึ่งตัวช่วยอย่างครีมกันแดด


  1. หลักเลี่ยงการออกแดดในเวลาที่แดดจัด

  2. การป้องกันอย่างแรกสุดและง่ายสุด คือการอย่าออกไปเจอแดดนั่นเอง และแดดเมืองไทยจะร้อนแรงที่สุดในช่วงเวลา 9.00 – 15.00 น. ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายสุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเวลาอื่นๆ จะไม่เป็นไร จำไว้เสมอว่ามีแสงก็คือมีแดด ต่อให้แดดร่มลมตก ก็ยังเจอรังสี   UV อยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าหลีกเลี่ยงเวลาเหล่านี้ไม่ได้ก็ต้องพึ่งตัวช่วยอย่างครีมกันแดด อย่าลืมเลือกให้เหมาะกับสถานการณ์และเหมาะกับผิวของเราด้วย


  3. ใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม

  4. การป้องการขั้นต่อมาเพื่อเป็นปราการสำคัญก่อนใช้ครีมกันแดด ถ้าเราต้องออกไปเจอแดด หรือต้องออกกำลังกายกลางแจ้ง ก็คงเป็นสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ที่จะต้องเจอกับรังสี UV ก็ต้องป้องกันด้วยการเสื้อผ้าที่เราสวมใส่อยู่ จากปกติเป็นคนใส่เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น ก็ต้องเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวบ้างด้วยการใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวให้มิดชิดซักหน่อย เพื่อป้องกันแสงแดดที่จะเข้ามาทำร้ายผิวของคุณและช่วยเบาแรงให้กับครีมกันแดดอีกทางหนึ่งด้วย


  5. อย่าลืมพกอุปกรณ์เสริม

  6. อุปกรณ์เสริมในที่นี้ไม่ได้หมายถึงครีมกันแดด แต่หมายถึงอุปกรณ์เสริมง่ายๆ ที่เราเองก็มีกันอยู่แล้วอย่าง ร่ม หรือหมวก ถ้าเป็นคุณผู้หญิงก็เลือกใส่หมวกปีกกว้างได้ จะได้ครอบคลุมหมดไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าหน้าไม่ดำ แต่แขนดำปี๋ไปเลย เดี๋ยวนี้อุปกรณ์เสริมอย่างหนึ่งที่สวมใส่กันจนรู้สึกปกติแล้วนั่นคือปลอกแขน เห็นจนชินตาเพราะใส่แล้วดูสปอร์ตขึ้นอีกต่างหาก


     เป็นอย่างไรกันบ้างกับอุปกรณ์เสริมที่เรามีกันอยู่แล้ว เพียงแค่ไปหยิบมาใช้ให้ถูกเวลา และหลีกเลี่ยงการออกแดดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วก็อย่าลืมว่าไม่ว่าจะมีแดดหรืออยู่ในร่ม เราก็ยังเผชิญกับรังสี UV อยู่ดี แล้วปราการสุดท้ายที่คุณจะลืมไม่ได้เลยนั่นคือ ครีมกันแดดดีๆ ซักตัว เลือกที่เหมาะกับผิว และเหมาะกับสถานการณ์ที่เราต้องเผชิญ และที่สำคัญคืออย่าขี้เกียจที่จะทาครีมกันแดดให้เป็นประจำ