แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ครีมกันแดด แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ครีมกันแดด แสดงบทความทั้งหมด

เคล็ดลับการป้องกันพิษภัยจากแสงยูวี ด้วยครีมกันแดด

     เรื่องปัญหาสุขภาพผิวที่เราต้องประสบพบเจอ มีหลากหลายสาเหตุ และแสงอัลตาไวโอเลต หรือที่เรียกว่าแสงยูวี(UV) คือเจ้าต้นเหตุสำคัญที่ไม่แค่ทำให้เรารู้สึกร้อนเท่านั้น แต่กลับมีพิษภัยทำลายผิวเราได้ ไม่ว่าเจ้าตัวแสงยูวีจะเป็นตัวร้ายกับผิวเราแค่ไหนก็ตาม เราสามารถป้องกันได้ด้วยเคล็ดลับที่เรานำมาฝากกันนี้เลย


  1. หลีกเลี่ยงแสงแดดและแสงยูวี

  2. เราคงจะหลบแสงแดดไม่ได้ อย่างไรก็คงหนีไม่พ้น แต่เราสามารถเลี่ยงแสงแดดในช่วงที่มีรังสียูวีมากๆ อย่างช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น.ได้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่แดดแรงมาก สังเกตได้จากผิวมีอาการแสบร้อน แต่ถ้าเราต้องเผชิญแสงแดด ต้องใส่เสื้อผ้าคลุมกายและสวมหมวกกันไว้ให้มิดชิดเข้าไว้ เพื่อไม่ให้กระทบผิวโดยตรง


  3. เลือกใช้ครีมกันแดด

  4. ครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญที่ควรคู่ผิวหน้าและผิวกายของเรา เมื่อต้องเผชิญกับภาวะแสงแดดและต้องสู้กับแสงยูวี ทาผิวด้วยครีมกันแดดทุกวันเป็นประจำหรืออย่างน้อยก่อนออกไปกลางแดด ก็จะช่วยเป็นเกราะป้องกันให้กับผิวไม่ให้เกิดอาการแสบคัน หมองคล้ำ ผิวแดงไหม้ ทำให้ผิวหน้าเกิดฝ้า และอาจเป็นสาเหตุร้ายแรงอื่นๆ อีกได้


  5. ใช้ครีมกันแดดให้เหมาะสม

  6. เมื่อรู้แล้วว่าครีมกันแดดช่วยป้องกันพิษภัยจากแสงยูวีให้กับคุณได้ ฉะนั้นอย่ามองข้ามให้ครีมกันแดดมาดูแลสุขภาพผิวของคุณ ด้วยการเลือกใช้ชนิดที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณเอง และที่สำคัญต้องมีส่วนผสมของสารกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการช่วยป้องกันผิวไม่ให้เกิดอาการแสบและไหม้ได้จริงๆ ด้วย


  7. เลือกใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันยูวีเอและยูวีบี

  8. ต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพและมีสารกันแดดจริง ที่สามารถป้องกันยูวีเอที่เป็นสารกันแดดสะท้อนแสง และชนิดที่ป้องกันยูวีบีด้วย โดยให้ดูค่า Sun Protection Factor หรือเรียกว่าค่า SPF ที่เป็นตัววัดความสามารถในการป้องกันอาการแดงไหม้จากแสงยูวีบี


  9. ทาครีมกันแดดทุกครั้ง อย่างสม่ำเสมอ

  10. เพื่อให้ได้ผลดีกับผิวคุณ ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ แม้จะไม่ได้ออกไปเจอแสงแดดโดยตรงก็ตาม เพราะไม่ใช่เพียงจากแดดในตอนกลางวันเท่านั้นที่มีแสงยูวี การที่คุณอยู่ห้องที่มีแสงไฟ แสงสว่างจากหน้าคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่คุณอยู่ในร่มก็ทำให้ต้องโดนแสงยูวีได้เช่นกัน


     เห็นแล้วใช่ไหมละว่าแค่คุณใช้ครีมกันแดดไว้เป็นตัวช่วยชั้นดี ที่ทำให้ผิวหน้าผิวกายของคุณไม่ต้องประสบปัญหาผิวเสีย แห้งกร้าน เป็นฝ้า หรือแม้แต่เกิดอันตรายเป็นพิษภัยให้กับผิวของคุณจนเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ฉะนั้นอย่าลืมเลือกซื้อครีมกันแดดและเพื่อให้ได้ผลต้องใช้เป็นประจำ

การดูแลรักษาผิวหน้าสวยใสมีสุขภาพดีด้วยการใช้ครีมกันแดด

     เมื่อแสงแดดเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพผิวหน้าของเรา ให้มีใบหน้าที่เสียไปกับความดำคล้ำ แห้งกร้าน ที่เห็นได้ชัดเลยคือมีริ้วรอย เหี่ยวย่น ส่งผลให้คุณดูแก่ก่อนวัย ซึ่งไม่ดีเลยใช่ไหม ฉะนั้น เมื่ออยากมีผิวสวยใส สุขภาพดี เรามีวิธีการใช้ครีมกันแดดตัวช่วยในการปกป้องผิวสวยของคุณให้ยังคงสวยใสสุขภาพดีมาฝากกัน


  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารกันแดด

  • ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่ใช้เป็นประจำ ควรจะต้องมีส่วนผสมของสารกันแดดอยู่ด้วย ไม่ว่าจะครีมบำรุงผิวหน้า ผิวกาย เดย์ครีม หรือครีมรองพื้น เพราะเครื่องสำอางเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณต้องใช้เป็นประจำอยู่แล้ว การได้รับสารกันแดดเพิ่มเข้าไปด้วยอีกนั้น ย่อมจะได้รับการปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดเพิ่มขึ้นได้ด้วย


  • ทาครีมกันแดดที่มีสารกันแดด

  • แม้การใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องสำอางที่เราใช้อยู่ประจำ โดยทั่วไปจะมีส่วนผสมของสารกันแดดก็ตาม แต่ยังไม่เพียงพอ เพราะอย่างไรก็ยังมีคุณสมบัติหลัก คือการเป็นเครื่องสำอาง เมื่อต้องการป้องกันผิวจากแสงแดดให้ได้ผลดี ต้องทาครีมที่มีสารกันแดดอย่างแท้จริง ก่อนจะใช้เครื่องสำอางแต่งแต้มสีสันบนใบหน้าทาครีมกันแดดไว้จะส่งผลดีกว่าแน่นอน


  • ใช้ครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว

  • ในเมื่อสภาพผิวคนเรามีความแตกต่างกัน ก็ควรที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทครีมกันแดดที่ต่างกันด้วย เพื่อให้ได้ผลดี ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวด้วย เช่น หากคุณเป็นสาวผิวแห้งเหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อครีม สำหรับสาวผิวมันควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำมันอย่างพวกเนื้อเจลหรือซิลิโคน ส่วนที่เป็นแบบโลชั่นจะเหมาะกับสาวผิวธรรมดา


  • ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสีผิวของคุณสาว ๆ

  • อีกข้อที่สำคัญคือการเลือกใช้ครีมที่มีค่า SPF ซึ่งเป็นตัวบอกค่าการป้องกันแสงแดด ควรเลือกให้เหมาะกับสีผิวของคุณด้วย สาวเอเชียส่วนใหญ่จะมีผิวสีเหลืองเหมาะกับครีมกันแดดที่มีค่า SPF30+ ส่วนสาวผิวขาวควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่าปกติเพราะเป็นผิวที่มีความไวต่อแสง ส่วนสาวผิวคล้ำใช้ครีมที่มีค่า SPF ต่ำๆ ได้ แต่อย่างน้อยให้ค่า SPF15+


  • ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ

  • อากาศที่ร้อนอบอ้าว และร้อนแรงจะเป็นตัวทำลายคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวหนัง จนทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น สาเหตุที่ทำให้สภาพผิวมีปัญหาต่างๆ นานา การใช้ครีมกันแดดจึงเป็นวิธีป้องกันแสงแดดได้ดีระดับหนึ่ง แต่จะให้ได้ผลดีที่สุด ต้องใช้ให้เป็นประจำ โดยทาครีมให้ทั่วบริเวณผิวหนังบริเวณที่ไม่สามารถปกป้องได้ด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่ หมั่นทายิ่งได้ผลดียิ่งขึ้น

การเลือกใช้ครีมกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดดตัวร้ายที่ทำลายผิว

     เมื่อต้องเผชิญกับแสงแดดตัวร้าย ต้นเหตุที่ทำให้ผิวสวยๆ ต้องถูกทำลาย ทำให้สภาพผิวเสียไปอย่างน่าเสียดาย มาเตรียมรับมือด้วยการปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยครีมกันแดดกันดีกว่า เพื่อจะได้มีหน้าใสและมีผิวสุขภาพดีต่อไปนานๆ


  1. แดดทำให้ผิวคล้ำเสีย แห้งกร้าน

  2. คงไม่มีใครอยากมีผิวที่มีสภาพหมองคล้ำ ดำ และแห้งกร้าน ตัวการที่ทำให้ผิวต้องมีสภาพแบบนี้ ก็คือแสงแดด และอาการอาจเกิดมากขึ้นคือ บวมแดง พอง โดยเฉพาะคนที่แพ้แดด อาจทำให้ผิวลอก เป็นขุย ในเมื่ออยากผิวสวยหน้าใส ต้องทาครีมที่มีสารกันแดดอยู่จริงย่อมช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้


  3. แสบร้อนและคันผิวบริเวณที่โดนแดด 

  4. เมื่อรู้สึกว่าผิวมีสภาพแห้ง แสบๆ คันๆ บริเวณที่โดนแดด ไม่ว่าจะผิวหน้า แขน ขาหรือต้นคอ ขณะออกแดดตอนกลางวันแล้วละก็ แสดงว่าแสงยูวีจากแสงแดดได้แผดเผาผิวหน้าและผิวกายของคุณจนทำให้มีอาการไหม้แดง มันคืออาการเริ่มต้นเพื่อเตือนให้รู้ว่าแดดมันทำร้ายคุณได้ ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดแรงๆ ที่สำคัญต้องปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดเสมอ


  5. แสงแดดทำให้เกิดริ้วรอย เหี่ยวย่น

  6. แสงยูวี ที่ส่องมากระทบกับผิว ทั้งชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ มีผลทำให้สภาพผิวเกิดริ้วรอย เหี่ยวย่น บ่งบอกได้ว่าสภาพผิวของคุณโดนแดดทำร้ายโดยทิ้งร่องรอยไว้มากแค่ไหน อย่าปล่อยให้แสงแดดทำทำลายคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวหนัง จนทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น สาเหตุที่ทำให้สภาพผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอย ทำให้ดูแก่ก่อนวัย


  7. หน้าขึ้นฝ้า เป็นกระ

  8. แสงแดดต้นเหตุหลักของฝ้าและกระ ที่เกิดบนใบหน้า การรักษาไม่ได้ง่ายเลย กว่าจะหายต้องทนไปอีกนานแค่ไหน แต่เราสามารถป้องกันได้ ด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 ขึ้นไป ทากันไว้อย่างน้อย 30 นาทีก่อนออกไปเผชิญกับแสงแดด ทาให้ทั่วใบหน้าและทาซ้ำๆ ในทุก 3-4 ชั่วโมง ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างน้อยก็ควรป้องกันเอาไว้ก่อน


  9. ทำให้เป็นมะเร็งผิวหนัง

  10. แสงแดดไม่ได้แค่ทำร้ายผิวที่ทำให้แค่รู้สึกว่าร้อน แห้งกร้าน แสบคันเท่านั้น เพราะบริเวณผิวที่โดนรังสียูวีจากแสงแดดที่แรงๆ มากๆ ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะส่วนใดก็ตามที่โผล่ออกมาจากร่างกายแล้วโดนแดดโดยตรง เช่น แขน ขา คอ หลัง ซึ่งอาจส่งผลกระทบที่ร้ายแรงถึงขั้นเกิดเป็นเนื้อร้ายกลายเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้

     เมื่อคุณรู้ว่าแสงแดดสามารถทำร้ายผิวของเราได้มากอย่างนี้แล้วละก็ ก่อนออกจากบ้านไปเที่ยวไหนๆ อย่าลืมปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดทุกครั้ง และพกติดตัวเสมอ ใช้ทาบ่อยๆ อย่าปล่อยให้แสงแดดมาทำร้ายเราได้อีก

5 คำตอบของ 5 ปัญหาผิว จากการใช้ครีมกันแดด

     เรารู้กันดีว่ารังสีอัลตราไวโอเลต(UV) จากแสงแดด เป็นตัวอันตรายที่ทำให้ผิวสาวๆ ต้องมีสีผิวดำคล้ำ แห้งกร้าน มีริ้วรอย เกิดฝ้าแดด และอาจเป็นมะเร็งผิวหนังได้ จึงหันมาให้ความสนใจเลือกปกป้องผิวด้วยการใช้ครีมกันแดด แต่ก็ยังมีปัญหาหลังจากการใช้ไปแล้ว ฉะนั้นมาดูกันว่าปัญหาที่คุณเผชิญอยู่นั้น เราสามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้าง


  1. ทาครีมกันแดดแล้วเหนียวเหนอะหนะ

  2. โดยปกติครีมกันแดดที่ใช้กันอยู่ มีค่า SPF สูงยิ่งเข้มข้น ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกของคุณสาวๆ แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์กันแดดให้มีเนื้อบางเบา ซึมเร็ว โดยใช้ปริมาณ 1 กรัมทาให้ทั่วผิวหน้า และควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ให้เหมาะกับกิจกรรมและความแรงของแสงแดดด้วย ไม่จำเป็นต้องใช้แต่ค่า SPF สูงเสมอไป


  3. ทาครีมกันแดดแล้วผิวยังคล้ำ

  4. สำหรับสาวๆ ที่กลัวว่าโดนแดดแล้วผิวจะคล้ำเสียเลยขยันทาครีมกันแดดทุกวัน แต่ก็ยังมีปัญหาผิวหมองคล้ำอยู่ดี ความจริงแล้ว ครีมกันแดดที่ใช้อยู่นั้น จะมีสารกันแดดและคุณสมบัติในการปกป้องแสงแดดที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกใช้ชนิดที่ป้องกันทั้ง UVA และ UVB ที่มีผลค่อนข้างเสถียร จะทำให้ได้ผลดีกว่า และควรทาซ้ำเป็นการยืดอายุการป้องกันให้นานขึ้น


  5. ใช้ครีมกันแดดแล้วสิวขึ้น

  6. ผิวหน้ามันทาครีมกันแดดแล้ว ก็ยิ่งอุดตันบนใบหน้า เป็นสิว และเกิดการอักเสบได้ ลองเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดชนิดเจล เพราะมีลักษณะบางเบาทำให้ซึมเข้าผิวได้ง่าย และไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ถ้าเลือกใช้แต่แบบครีมก็จะยิ่งทำให้ผิวอุดตัน และไม่ทาครีมหนาเกินไปจะทำให้หน้ามันยิ่งขึ้น และเวลาล้างหน้าต้องล้างให้สะอาดหมดจดด้วย


  7. ใช้ครีมกันแดดแล้วหน้าขาวลอย

  8. หากเจอปัญหาทาครีมกันแดดทีไร หน้าขาวลอยเด่นมาแต่ไกล ต้องหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีสารกันแดดที่ชื่อว่า Titanium Dioxide เพราะสารตัวนี้มีความสามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ผิวดูขาวกว่าปกตินั่นเอง และที่สำคัญไม่อยากให้หน้าขาววอก หรือสีเทาหม่น ต้องเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสีผิวด้วย


  9. ทาครีมกันแดดแล้วยังเห็นริ้วรอย แผลเป็น

  10. ปัจจุบันมีครีมกันแดดที่ช่วยในเรื่องปกปิดจุดด่างดำ ริ้วรอย หรือแม้แต่แผลเป็นเล็กๆ ได้ เพราะในครีมกันแดดชนิดที่มีส่วนผสมของ BB และ CC ช่วยคุณได้ เพราะใน 2 ชนิดนี้ จะรวมเอาคุณสมบัติเด่นของเบส รองพื้น บำรุงและสารกันแดดเข้าไวด้วยกัน และใน CC เพิ่มการปรับสีผิว ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

4 วิธีเลือกซื้อครีมกันแดดให้รู้จริงและใช้ได้ตรงกับวัตถุประสงค์

  1. เลือกใช้สารเคมีให้ถูก
  2. SPF หรือ Sun Protective Factor เป็นตัวที่บอกค่าต่างๆที่ผู้ใช้จะต้องรู้ก่อนซื้อครีมกันแดดนั้น มันจะเป็นตัวบอกว่าครีมกันแดดหลอดนี้ป้องกัน UVB ได้กี่เท่าส่วน และ UVA เท่าไหร่ แต่ยังไม่มีค่าที่เป็นมาตรฐาน ซึ่งในปัจจุบันนิยมใช้ PA กับเครื่องหมาย + คนไทยผิวคล้ำเม็ดสีที่ผิวสามารถป้องกัน UVB ได้ระดับหนึ่ง ดังนั้น SPF มากกว่า 15 และ PA++ ก็เพียงพอสำหรับวันธรรมดาแล้ว

  3. จุดประสงค์กับสถานการณ์
  4. แต่การเลือกใช้ครีมกันแดดเองก็ต้องดูที่สถานการณ์ที่เรากำลังจะไปทำ หรือจะไปอยู่ด้วย เช่นการเล่นกีฬากลางแจ้ง หรือการที่ต้องทำงานกลางแดด มีเหงื่อ ก็ต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่สูงมากขึ้นกว่าปกติ และควรเลือกครีมกันแดดประเภทที่มีคุณสมบัติที่กันน้ำได้ (Water Proof หรือ Water Resistance) ก็จะดีมากๆ เพราะถ้าเป็นแบบปกติทั่วไป เวลาเจอกับเหงื่อก็จะหลุดออกหมดอย่างง่ายดาย

  5. ปริมาณ และจำนวนครั้งต่อวัน
  6. ปริมาณในการใช้ครีมกันแดดก็มีผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกันของมันด้วย และบางครั้งการใช้น้อยเกินไป หรือมากเกินจำเป็นก็ไม่ดี เพราะอย่าลืมว่าครีมกันแดดเป็นสารเคมี สามารถมีสารตกค้างอยู่บนผิวเราได้ถ้าทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ ส่วนจำนวนครั้งต่อวันนั้น ถ้าเราทำงานอยู่ในห้องแอร์ การทาครีมกันแดดเพียงครั้งเดียวต่อวันก็น่าจะเพียงพอ แต่ถ้าต้องออกไปทำงานข้างนอก โดนแดด โดนลม ก็อาจจะต้องเพิ่มจำนวนในการทาให้มากขึ้น

  7. ยี่ห้อไม่สำคัญ
  8. สุดท้ายก็เป็นประเด็นที่ต้องเจอกับสถานการณ์เลือกยากประจำ เมื่อไปอยู่ต่อหน้าชั้นวางครีมกันแดดในห้างสรรพสินค้า เพราะมีครีมกันแดดนาๆ ชนิด หลากหลายประเภทวางอยู่มากมาย เลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียว วิธีที่แสนง่ายในการเลือกซื้อครีมกันแดดให้ถูกต้อง คือไม่ต้องไปสนใจที่ยี่ห้อของครีมกันแดด แต่ให้พุ่งประเด็นไปที่ค่าของ SPF ที่ต้องการ ค่า PA ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการใช้ เท่านี้ก็พอแล้ว

     สุดท้ายกับการเลือกซื้อครีมกันแดดให้เหมาะกับสถานการณ์และวัตถุประสงค์ ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่จะป้องกันแดดได้นอกจากทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมา เช่น ต้องไม่ลืมว่าไม่มีครีมกันแดดตัวใดที่สามารถกันแดดได้ 100% เต็ม เพราะฉะนั้นการสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด การใส่หมวก หรือกางร่มทุกครั้งที่ออกไปเจอกับแดด ก็จะช่วยได้ และการทานอาหารที่สามารถกำจัดอนุมูลอิสระได้ เช่น ผัก ผลไม้ ก็จะช่วยให้ผิวของเราไม่อ่อนแอต่อแดดได้

ออกไปท่องเที่ยวท้าลมและแสงแดดได้อย่างสบายใจ เมื่อได้ใช้ครีมกันแดดอย่างถูกวิธี

     เราต่างก็รู้กันดีว่าเมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย อยากออกไปเที่ยวให้ทั่วไทยเลย แต่ปัญหาคือไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน ฤดูใด ก็ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนมากถึงร้อนที่สุด จนแทบไม่อยากไปไหน อย่าว่าแต่ออกไปเที่ยวเลย แค่เดินออกจากบ้านไปก็โดนแดดแรงๆ เผาผิวให้แห้งกร้าน แสบคันกันแล้ว แต่ถ้าบอกว่ามีวิธีที่คุณสามารถไปเที่ยวได้อย่างสบายใจละ แบบนี้น่าสนใจใช่ไหม ซึ่งไม่ยากเลย เพียงคุณใช้ครีมกันแดดอย่างถูกวิธี เรื่องเที่ยวก็เป็นเรื่องง่ายและสบายใจได้เลย


  1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมสารกันแดด

  2. เริ่มแรกเลยคุณต้องรู้จักการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้าและผิวกายของคุณให้มีส่วนผสมของสารกันแดด หรือเป็นครีมกันแดดโดยตรงที่มี SPF15+ ขึ้นไป เพราะในเนื้อครีมกันแดดนั้น จะสามารถช่วยปกป้องผิวของคุณให้ไม่ได้รับอันตรายจากแสงUV ที่จะทำร้ายผิวของเราได้ และเครื่องสำอางที่ใช้ประจำก็ควรต้องมีส่วนผสมของสารกันแดดร่วมด้วย


  3. เตรียมผิวด้วยการทาครีมกันแดดก่อนออกไปเจอกับแสงแดด

  4. หลังจากที่ทำความสะอาดผิวหน้าผิวกายแล้วหลังจากนั้นให้ใช้ครีมกันแดดทาให้ทั่วบริเวณผิวที่เป็นอวัยวะส่วนที่ต้องโผล่พ้นมาจากเสื้อผ้า ทั้งผิวหน้า แขน ขาและมือ ลำคอ ทาทิ้งไว้สัก 5-10 นาทีรอให้ผิวดูดซึมครีม แล้วจึงค่อยทาครีมตัวอื่นๆ ต่อไป และสำหรับใครที่ต้องบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ควรทาก่อนครีมกันแดดทุกครั้งเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว


  5. ในกระเป๋าต้องมีครีมกันแดดพกติดตัวเสมอ

  6. ไม่ว่าการเดินทางท่องเที่ยวของคุณจะต้องเผชิญกับแสงแดดที่ร้อนแรงแค่ไหน ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะเราขอแนะนำให้คุณพกครีมกันแดดติดตัว ติดกระเป๋าไว้ให้พร้อมใช้เสมอ ไม่ว่าจะเดินทางไปไหน เมื่อต้องเจอสภาพอากาศที่ลมแรง แดดแสบร้อน ผิวของคุณยิ่งควรได้รับการปกป้อง ก็ยิ่งควรหยิบครีมกันแดดมาทาบ่อยๆ เป็นประจำทุกวัน


  7. เลือกทาครีมกันแดดให้เหมาะสม

  8. เมื่อรู้แล้วว่าใช้ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวเราจากแสงแดดได้ ก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมด้วย ทั้งสภาพผิว สีผิว และเหมาะกับกิจกรรมในการท่องเที่ยวนั้นเป็นแบบไหน สภาพแดดลมแรง หรือจะต้องเจอทั้งแดดและน้ำ ยิ่งต้องใช้ครีมที่แตกต่างกันอย่างเหมาะสม และแม้ไม่มีแดดหรืออยู่ในที่ร่มก็อย่ามองข้ามต้องทาครีมกันแดดชนิดที่บางเบากันไว้ด้วยเช่นกัน