- มารู้ภัยอันตรายที่เกิดจากแสง UV กันก่อน
- ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารกันแดด
- ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA เหมาะสม
- เลือกใช้ครีมกันแดดให้เหมาะกับกิจกรรม
- ครีมกันแดดจำเป็นทุกฤดูและทุกสภาพอากาศ
อาการเริ่มแรกที่รู้สึกได้ว่าผิวจะแห้ง แสบร้อนและคันๆ และจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อได้รับแสงอาทิตย์ที่แรงและนาน ยิ่งในช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น. คือเวลาที่มีความเสี่ยงจะได้รับแสงอัลตราไวโอเลตมากกว่าเวลาอื่น เป็นสาเหตุให้ผิวคล้ำ มีริ้วรอย เป็นฝ้า กระ และจะส่งผลให้ผิวมีอาการแดงไหม้ บวมพอง จนถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังได้ น่ากลัวมากใช่ไหมละ
คุณต้องรู้จักการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้าและผิวกายของคุณให้มีส่วนผสมของสารกันแดด และใช้ครีมกันแดดโดยเฉพาะที่มีค่า SPF15+ และ PA+จะสามารถปกป้องผิวของคุณให้ไม่ได้รับแสง UV โดยตรง ควรดูแลผิวด้วยการทาครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้าและผิวกายเป็นประจำ เพื่อเป็นเกราะป้องกันผิวให้กับสาวๆ สู้แดดได้เพื่อผิวสวยได้อีกนานๆ
อีกข้อที่สำคัญคือการเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF และค่า PA ซึ่งก็คือ ตัวบ่งบอกถึงความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVB และ UVA พิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมด้วย อย่างเช่น ถ้าสาวๆ ที่ต้องการปกป้องสูง อย่างการที่ต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ แดดจัดๆ สามารถใช้ค่า SPF 30+ ขึ้นไปได้ และค่า PA+++ เพื่อเป็นเกราะป้องกันชั้นสูงให้กับผิวของคุณ
สำหรับคุณสาวๆ ที่ทาครีมกันแดดไปแล้ว แต่กังวลว่าเหงื่อออกมาก หรือต้องออกไปเผชิญกับกิจกรรมที่ต้องเจอน้ำ ไม่ว่าจะล่องแก่ง ว่ายน้ำ ไปเที่ยวทะเล ไม่ต้องกังวลว่าทาไปแล้วจะไม่มีประโยชน์ เพราะถ้าคุณเลือกครีมกันแดดชนิดกันน้ำ จะมีคุณสมบัติติดทนนาน ไม่หลุดง่าย เพื่อจะได้รับประโยชน์ช่วยปกป้องผิวคุณจากแสงแดดอย่างได้ผล
ทุกวันนี้แดดในบ้านเราช่างร้อนแรงไม่ว่าฤดูไหน จะร้อน ฝนหรือหนาว สาวๆ ก็ควรดูแลผิวหน้า ผิวกายด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำเสมอ เพราะเมื่อมีแสงอาทิตย์ก็จะมีรังสี UV อยู่ดี ฉะนั้นผิวของคุณย่อมต้องการได้รับการปกป้องเช่นกัน จะเลือกใช้ครีมกันแดดต่างชนิดได้ หรือมีค่า SPF และค่า PA สูงหรือต่ำ ตามสภาพอากาศและแสงแดดในช่วงนั้นๆ ด้วย